Loading... กรุณารอสักครู่ระบบกำลังดำเนินการ...

  • ภาษาไทย
  • English
  • ค้นหางาน

นโยบาย

เรื่อง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพนักงาน, ผู้สมัครงาน และผู้ฝึกงาน (ฉบับแก้ไข)

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (เอพี กรุ๊ป) ตระหนักถึงความสำคัญและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงานและผู้ฝึกงานซึ่งถือเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ของกิจการ เท่านั้น

เพื่อรับรองและให้ความเชื่อมั่นต่อท่านจะได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว สำหรับผู้สมัครงานและผู้ฝึกงานทุกท่าน (HR Privacy Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับรายละเอียดและวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงได้รับตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

1. ความหมายของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ โดยสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อีเมล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรมและข้อมูลชีวภาพ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ดังต่อไปนี้

● ชื่อ-นามสกุล

● รหัสประจำตัวพนักงาน

● หมายเลขประจำตัวประชาชน

● หมายเลขโทรศัพท์ , ข้อมูลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (ถ้ามี)

● หมายเลขบัญชีธนาคาร

● หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร

● ที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

● ภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวของพนักงาน

● ข้อมูลและประวัติของพนักงาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถและการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษาประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ ประวัติการทำงานและข้อมูลการจ้างงานในอดีตสิทธิการทำงานตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางภาษา อื่น ๆ

● เงื่อนไขการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัด หรือทำงานนอกสถานที่

● ข้อมูลคู่สมรส บุตร บิดา มารดา หรือผู้ที่บริษัทสามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น

● ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว หรือผู้อยู่ในความดูแลของท่าน (ถ้ามี)

● ข้อมูลบุคคลที่อ้างถึง หรือผู้ที่สามารถติดต่อได้ (กรณีฉุกเฉิน) เช่น เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น

● ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร

● ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ, ใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะ

● ข้อมูลสุขภาพและประวัติทางการแพทย์ ด้านสวัสดิการพนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน, การรักษาพยาบาลและการใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาล (ประกันสังคม) เป็นต้น

● ข้อมูลลายนิ้วมือหรือข้อมูลติดตามตัวผ่านอุปกรณ์สื่อสารพกพา เพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออก การปฏิบัติงาน (กรณีขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล)

● ข้อมูลประวัติอาชญากรรม กรณีขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งนำมาแสดงหรือยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อใช้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการรับเข้าทำงาน ซึ่งบริษัทจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

กรณีที่มีความจำเป็นหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ด้วยเหตุนี้ บริษัทได้จัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุดและเคร่งครัด

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังวิธีการต่อไปนี้

● ข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ได้แก่ ใบสมัครงานที่บริษัทส่งให้กับท่านแบบปกติและแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การรับสมัครงานผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์ของบริษัท, การส่งใบสมัครงานทางไปรษณีย์และการสมัครงาน walk-in ด้วยตนเองที่สำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท เป็นต้น

● ข้อมูลส่วนบุคคลทางอ้อม ได้แก่ ใบสมัครงานที่ท่านส่งให้กับบริษัทที่ให้บริการด้านรับจัดหางาน, หน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ เพื่อให้บริการรับปรึกษาและให้คำแนะนำด้านรับจัดหางาน เป็นต้น

4. วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลท่านเท่าที่จำเป็นและภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนดในการดำเนินธุรกิจและส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับท่าน ;

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) โดยไม่กระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานใด ๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

● เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ดำเนินการตามคำร้องขอของท่านก่อนทำสัญญา

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้สมัคร

บริษัทอธิบายรายละเอียดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) และมีความจำเป็นต่อการใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในแต่ละชนิดหรือประเภทของกิจกรรมเพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับท่าน รายละเอียดตามตารางดังต่อไปนี้


วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล ฐานการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ที่จัดเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
1) เพื่อติดต่อสรรหาและคัดเลือกผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติและเงื่อนไข ตรงตามที่กำหนดและพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง บรรจุ และว่าจ้างผู้สมัครงานให้เป็นพนักงาน ลูกจ้าง ผู้ฝึกงาน หรือพนักงานและลูกจ้างชั่วคราว เพื่อความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ดำเนินการตามคำร้องขอ ของผู้สมัครงานก่อนเข้าทำสัญญาว่าจ้างงาน หากเจ้าข้องข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ความยินยอมให้ข้อมูลนี้จะทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญาจ้างงานได้ - ชื่อ-นามสกุล
- รหัสประจำตัวพนักงาน
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- หมายเลขโทรศัพท์
- ที่อยู่ปัจจุบัน และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- หมายเลขบัญชีธนาคาร
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- ประวัติการศึกษา/ประวัติการทำงานในอดีตที่ผ่านมา
- ข้อมูลสุขภาพ/ประวัติด้านการแพทย์(กรณีขอความยินยอม)
- ข้อมูลลายนิ้วมือ (กรณีขอความยินยอม)
- ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า (กรณีขอความยินยอม)
- ข้อมูลการติดตามตัว ผ่านอุปกรณ์สื่อสารพกพา (กรณีขอความยินยอม)
- ข้อมูลประวิติอาชญากรรม (กรณีขอความยินยอม)
- ข้อมูลประวิติอาชญากรรม (กรณีขอความยินยอม)
2) เพื่อทำสัญญาจ้างงานพนักงานหรือลูกจ้างใหม่ (ประจำและชั่วคราว) รวมทั้ง ผู้ฝึกงาน
3) เพื่อให้สิทธิและสวัสดิการรักษาพยาบาลและความคุ้มครองทางสังคมเท่าที่จำเป็นตามกฎหมายแรงงานและสวัสดิการทางสังคม เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน การให้สิทธิและสวัสดิการรักษาพยาบาลและการคุ้มครองทางสังคมเท่าที่จำเป็นตามกฎหมายแรงงานและสวัสดิการทางสังคม เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวจึงจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศตามมาตรฐานและอยู่ในระดับที่สูงขึ้น เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
4) เพื่อบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลสำหรับการพัฒนาศักยภาพของผู้สมัครงาน หรือพนักงานใหม่ ผ่านระบบแอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถามและบริการต่างๆ ของบริษัท เป็นต้น เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานและองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร การฝึกอบรมพนักงาน การรับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่งงาน การบริหารโครงสร้างอัตราเงินเดือน และการบันทึกวันเวลาปฏิบัติงาน วันลา วันหยุด และการปฏิบัติงานล่วงเวลา

บริษัทอาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของบริษัทที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

5. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

1. บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

● บริษัทในเครือ

● โรงพยาบาล หรือหน่วยงานด้านสุขภาพที่ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล หรือสำนักงานประกันสังคม

● หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงแรงงาน เป็นต้น

● บุคคลและนิติบุคคล ที่ไม่ใช่บริษัทในเครือ (เอพีกรุ๊ป) เช่น บริษัทรักษาความปลอดภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอตรวจสอบประวัติอาชญากรรม สถาบันการเงิน ผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น

บริษัทกำหนดให้บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กล่าวมาแล้วนั้น ต้องเก็บรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนดและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เท่าที่กำหนดไว้ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ หรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกดำเนินการเท่านั้น

2. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (กรณีร้องขอ) เช่น เพื่อป้องกันการถูกข่มขู่ต่อชีวิตและร่างกายเพื่อบังคับใช้และดำเนินการตามกฎหมาย การตั้งข้อหาหรือฐานความผิด การใช้สิทธิใด ๆ ทางกฎหมาย การป้องกันการฉ้อโกง เป็นต้น

6. การจัดเก็บรวบรวม และระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระบบฐานข้อมูลและงานสารสนเทศภายในของบริษัท อีกทั้งได้จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน ตลอดจนมีระยะเวลาในการจัดเก็บรักษาอย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์เพื่อให้ระบบข้อมูลและงานสารสนเทศ ตลอดจนการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านได้รับความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและสูงที่สุด ดังมาตรการต่อไปนี้

● จำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น โดยอนุญาตให้เข้าถึงได้เฉพาะ พนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก เท่านั้น การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอ อาจทำได้เท่าที่มีสิทธิหรือคำสั่งซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่เก็บรักษาข้อมูลความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

● จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นระบบและการจัดการทางเทคโนโลยีอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบทางคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

● ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรณีที่ไม่มีความจำเป็นในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ ตามวัตถุประสงค์แห่งกฎหมายและกิจการในธุรกิจอีกต่อไป เพื่อความปลอดภัยต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

● จัดให้มีมาตรการและวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล กรณีหากเกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัยและต้องดำเนินการแจ้งเหตุการละเมิดของมูลส่วนบุคคลต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

● บริษัทจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากการพ้นสภาพพนักงานบริษัท หรือระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทตามที่กฎหมายกำหนดไว้

● หากไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างชัดเจน บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่สัญญาจ้างสิ้นสุดลง เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิเรียกร้องต่อการสู้คดี บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามเวลาที่คาดหมายได้ตามมาตรฐานแห่งการเก็บรวบรวม โดยจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินกว่าระยะเวลา 10 ปี นับแต่คดีถึงที่สุด

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดำเนินการตามวัตถุประสงค์และขอบเขตเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้

1. ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกจัดเก็บรวบรวมไว้กับบริษัท

2. ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตัวท่านเอง (Right of Access) และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยเหตุแห่งการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท

3. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเพิ่มข้อมูลใด ๆ ที่ไม่ครบหรือไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)

4. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)

5. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)

6. ท่านมีสิทธิโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เคยให้ไว้กับบริษัท ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นๆหรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Data Portability)

7. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)

บริษัทจะพิจารณาและดำเนินการตามคำร้องขอโดยเร็วภายในระยะเวลา 30 (วัน) นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอจากท่านตามสิทธิที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

8. การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จัดให้มีการทบทวนและตรวจสอบอยู่เป็นประจำและสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเงื่อนไขการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและเพื่อความโปร่งใสชัดเจนต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีหากมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางแพลตฟอร์มอื่นใด เช่น เว็บไซต์ของบริษัท หรือแพลตฟอร์มอื่นใดของบริษัทและบริษัทในเครือ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่เป็นครั้งคราว ซึ่งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่นี้ให้มีผลบังคับใช้บังคับทันทีในวันที่ออกประกาศ

9. ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (เอพี กรุ๊ป)

สถานที่ติดต่อ :170/57 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 1 ชั้น 19 ถนนรัชดาภิเษกตัดใหม่ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

หมายเลขโทรศัพท์ :02-261-2518

E-mail :recruit@apthai.com

  1. นโยบาย

Career Footer

ร่วมงานกับเรา? ส่งข้อมูลของท่านมาที่ recruit@apthai.com
COACH  Recruit Build Version 14.0.2025.0311.31.1
Copyright © 2025 Puumsoft Company Limited. All rights reserved.
นโยบาย ข้อกำหนดการใช้งาน
เว็บไซต์นี้รองรับเฉพาะเบราเซอร์เวอร์ชัน ตั้งแต่ Chrome 100, Edge Chromium 100 และ Firefox 100 ขึ้นไป
เว็บไซต์นี้รองรับเฉพาะเบราเซอร์เวอร์ชัน ตั้งแต่ Chrome 100, Edge Chromium 100 และ Firefox 100 ขึ้นไป โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบ
The minimum browser supported is Chrome 100 or higher, Edge Chromium 100 or higher, or Firefox 100 or higher. Please contact your System Administrator.
เว็บไซต์ไม่รองรับในการเปิดบน browser ของ application Line / Facebook โปรดใช้บน Chrome, Firefox หรือ Safari ในการเข้าใช้เว็บไซต์
The website does not support browser on application Line / Facebook. Please use on Chrome, Firefox or Safari to access.
เปิด Browser / Open Browser.

Career Footer

ร่วมงานกับเรา? ส่งข้อมูลของท่านมาที่ recruit@apthai.com
COACH 
Copyright © 2025 Puumsoft Company Limited. All rights reserved.